ศัลยกรรมปลูกผมนอกจากแบบผ่าตัด FUT ก็ยังมี แบบ FUE ซึ่งเป็นวิธีการเจาะเอารากผมออกมาทีละราก เครื่องมืออาจจะมีอยู่หลายอย่าง ตั้งแต่แบบ manual ธรรมดา(ใช้มือหมุน) หรือเป็นลักษณะของการใช้มอเตอร์มาช่วยหมุนเจาะ มีทั้งควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ หรือหมุนปรับรอบเอง การเจาะแล้วมีตัวช่วยดูดรากผมขึ้นมา หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์ ARTAS ก็ถือว่าเป็นเทคนิค FUE เช่นกัน
ข้อดีของ FUE คือ
1.เนื่องจากการเจาะนั้น ทำให้เกิดแผลที่มีลักษณะเป็นจุดขนาดเล็กกระจายทั่วไป ไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ไม่ต้องมีการตัดไหม วิธีนี้จึงไม่รุนแรงมากนัก ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า mini invasive ซึ่ง invasive นั้นคือการเจาะตัด แต่ไม่เท่ากับการตัดชิ้นเนื้อออกมาเป็นแผ่นแล้วเย็บ ทำให้ฟื้นตัวเร็ว เพราะแผลค่อนข้างเล็ก
2.หากในกรณีต้องการจำนวนกราฟเยอะ ๆ บางทีจะต้องใช้พื้นที่ในการเจาะค่อนข้างเยอะ และโกนผมออกเยอะเช่นกัน แล้วเลือกเจาะเอา วิธีการเจาะ FUE ต้องใช้วิธีการสุ่ม ยกตัวอย่างเช่น เรามีรากผมอยู่ แล้วเจาะชิดกันเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ รอยเจาะจะอยู่ติดกัน และทำให้มีรอยแผลเป็นติดกัน จึงเกิดเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ดูไม่สวยงาม เพราะฉะนั้นการเจาะ FUE นั้นต้องอาศัยความชำนาญในการเจาะ และกระจายแผลออกมาให้ดูสวยงาม และต้องคำนึงถึงความหนาแน่นของผมด้านหลังว่าเพียงพอหรือไม่ในการทำ
ถ้าหากคนที่ผมบางอยู่แล้ว แต่ยังเลือกใช้วิธี FUE อยู่ ก็จะทำให้ผมด้านหลังบางยิ่งขึ้น และเกิดปัญหาผมด้านหลังบางยิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือข้อเสีย แต่ข้อดีก็คือ เวลาที่เราโกนผม การทำผ่าตัดด้วยเทคนิค FUE จะเห็นแผลเป็นได้ค่อนข้างยากกว่าแบบวิธีผ่าตัด เนื่องจากว่าเป็นเพียงจุดขาว ๆ กระจายทั่วไป
ภาพเครื่องมือ FUE ชนิดต่างๆที่มีใช้ที่ Million Hair transplant center (MHC)